ทริปฤดูร้อนในโทชิงิแบบแอคทีฟ ที่ให้คุณได้รับประสบการณ์กันทั้งครอบครัว

“ศาลเจ้านิกโกโทโชงู”เป็นศาลเจ้าที่อุทิศให้แก่โชกุนโทคุงะวะอิเอะยะสุ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งใน “ศาลเจ้าและวัดของนิกโก” ที่เป็นตัวแทนมรดกโลกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งกลุ่มตัวอาคารของศาลเจ้าในปัจจุบันได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 17 โดยภายในมีอาคารเรียงรายที่ถือเป็นสมบัติของชาติถึง 8 หลัง สิ่งก่อสร้าง 55 หลังที่รวมเอาสมบัติอันมีค่าทางวัฒนธรรมที่สำคัญไว้ถึง 34 หลัง โดยรวบรวมเอาช่างฝีมือที่มาจากทุกพื้นที่ทั่วประเทศ มารังสรรค์สร้างประติมากรรมงานลงรักชิ้นเอกที่มีสีสันสดใสและสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพแกะสลักที่ต้องดูให้ได้อย่าง “แมวนอนหลับ” ที่สื่อถึงการอธิษฐานขอให้โลกสงบสุข และภาพ “ลิงสามตัว” ที่สือถึงการไม่ดู ไม่พูดและไม่ฟัง

คือชื่อเรียกโดยรวมของวัด อาคารและหอที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาที่อยู่ภายในภูเขานิกโก ถือเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในภูเขานิกโก ที่ได้รับการลงทะเบียนเป็นมรดกโลกของ “ศาลเจ้าและวัดของนิกโก” ที่รวมเอา “ซันบุทซึโด” ที่ประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์และอาคารอีก 38 หลัง ซึ่งหากได้เข้าร่วมในพิธี “โกฮังชิกิ” ที่จะจัดขึ้นทุกวันที่ 2 เมษายนของทุกปีก็จะได้รับโชคในเรื่องของการไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ บุคคลในครอบครัวมีอายุยืนยาวเป็นต้น เหล่าอาคารที่อยู่ด้านข้างและสวนญี่ปุ่น “โชโยเอ็น” ที่ถึงแม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็ยังเป็นที่นิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโชโยเอ็นถือเป็นจุดเด่นในการชมใบไม้แดงของนิกโก

น้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในน้ำตก 48 แห่งรอบนิกโก น้ำของทะเลสาบซูเซนจิ ที่ตกจากหน้าผาที่ความสูง 97 เมตรกลายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ทำให้สามารถดื่มด่ำไปกับทั้งความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและรูปร่างอันสวยงาม เมื่อลงจากลิฟต์จะมองเห็นถึงท้องน้ำตกที่อยู่ใกล้เคียง ทั้งเสียงน้ำตกกระทบและเสียงน้ำสาดกระเซ็นที่ได้คะแนนเต็มอย่างแน่นอน สีเขียวสดในเดือนพฤษภาคม นกเฮ้าส์มาร์ตินที่จะบินไปรอบ ๆ น้ำตกในเดือนมิถุนายน น้ำแข็งสีฟ้าอ่อนส่องเป็นประกายเงางามอันน่าประทับใจเป็นจากการแข็งของน้ำตกเล็กที่เรียกว่าจูนิทาคิในเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นการสรรสร้างของฤดูกาลทั้งสี่ที่สามารถสัมผัสได้

โรงแรมสไตล์บ้านไม้ซุงที่ตั้งอยู่ในป่าต้นโอ๊ก Quercus
บนชายฝั่งทะเลสาบชูเซ็นจิ
ห้องพักทุกห้องมีระเบียงหรือดาดฟ้าไม้
ช่วยให้คุณเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของทะเลสาบชูเซนจิ
พร้อมสัมผัสกับความรู้สึกของฤดูกาล
ในห้องอาหาร
ท่านสามารถเพลิดเพลินกับอาหารฝรั่งเศสที่ปรุงด้วยความหลงใหลของเชฟในการใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น
พร้อมกับชมต้นโอ๊ก Quercus
นอกจากนี้ น้ำพุร้อนยังเป็นอ่างอาบน้ำกลางแจ้งอันน่าภาคภูมิใจของเรา
“โซราบุโระ” ล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่สวยงามซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล
คุณสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่น่าอัศจรรย์เมื่อคุณมองขึ้นไปชมพระอาทิตย์ในยามเช้าที่ส่องผ่านต้นไม้
และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวในตอนกลางคืน
โรงแรมแห่งนี้ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับความงามของอุทยานแห่งชาตินิกโก้ได้อย่างหรูหรา
[เกี่ยวกับบ่อน้ำพุร้อน]
สีน้ำร้อน : สีขาวนวล
คุณภาพของน้ำพุร้อน: น้ำกำมะถัน
ประสิทธิภาพ: อาการปวดเส้นประสาท, ปวดกล้ามเนื้อ, ปวดข้อ, รอยฟกช้ำ,
โรคทางเดินอาหารเรื้อรัง, ไวต่อความเย็น, การฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้า ฯลฯ

ไปลองพายเรือคายัคที่ทะเลสาบจูเซนจิ ทะเลสาบที่ได้ชื่อว่าอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลที่สุดในญี่ปุ่น แน่นอนว่าแม้แต่คนที่ไม่เคยลองพายก็สามารถสนุกสนานได้อย่างไม่ต้องกังวล

เต็มอิ่มไปกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ภายใต้ท้องฟ้าแสนกว้าง จากใบไม้สีเขียวไปจนถึงใบไม้สีแดงคือความสนุกที่แท้จริง เห็นอย่างนี้แล้วไม่สนใจลองไปพายเรือคายัคกับครอบครัว หรือเหล่าเพื่อนๆ กันหน่อยหรือ?

ซันบอนมัตสึชายะ ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 100 ปี เป็นจุดแวะพักยอดนิยมของผู้คนที่เดินทางไปและกลับจากโอคุนิกโกมายาวนาน ขอเชิญแวะพักระหว่างการเดินทางที่นี่ดูซักครั้ง ร้านอาหารให้บริการอาหารโฮมเมดที่ทำจากวัตถุดิบในท้องถิ่นมากมาย ในร้านขายของที่ระลึกรวบรวบมาเฉพาะสินค้าที่สามารถซื้อได้แค่เพียงที่นี่เท่านั้น! นอกจากนี้ยังให้ท่านได้ประสบการณ์การทำขนมหวานด้วย (เดือนสิงหาคมถึงตุลาคม) โดยเริ่มจากการเก็บเกี่ยวสตรอเบอร์รี่ที่ Mt.Berry โอคุนิกโกที่อยู่ในเซนโจกะฮาระ จากนั้นจะย้ายไปที่ซันบอนมัตสึชายะเพื่อทำขนมหวาน สามารถจองได้สูงสุดหนึ่งสัปดาห์ล่วงหน้า แต่จะยินดีอย่างยิ่งหากท่านติดต่อเข้ามาแต่เนิ่นๆ หากมีที่ว่างก็สามารถจองได้ในวันเดียวกัน ขอเชิญมาลองทำขนมตามความชอบของตัวเองกันเถอะ!

โอคุนิกโก/เซนโจกาฮาระมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการปลูกสตรอเบอร์รี่ที่มีรสหวานและอร่อย เนื่องด้วยมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยเย็นสบายตั้งแต่ฤดูร้อนถึงฤดูใบไม้ร่วง สตรอเบอร์รี่เหล่านี้เป็นสตรอเบอร์รี่ชนิดพิเศษที่ปลูกโดยใช้พรจากธรรมชาติ สภาพอากาศ น้ำ ดิน และปุ๋ยที่คัดสรรมาอย่างดี ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม จะมีการจัดงานเก็บเกี่ยว “สตรอเบอร์รี่เทนคุ โนะ โคเกน” ซึ่งจะจัดเฉพาะในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น โดยสามารถรับประทานสตรอเบอร์รี่ 3 สายพันธุ์ได้ไม่อั้น (ขึ้นอยู่กับสภาพการเจริญเติบโต) ได้แก่พันธุ์ “นัทสึโอโตเมะ” ซึ่งมีเฉพาะในจังหวัดโทชิงิ “โยสึโบชิ” และ “เพคกะ โฮโนกะ” ซึ่งเปิดตัวในปี 2024 ขอเชิญมาลองชิมเปรียบเทียบกับ “นัทสึโอโตเมะ” ที่มีความสมดุลระหว่างความหวานกับความเปรี้ยว “โยสึโบชิ” ที่มีความหวานและกลิ่นหอมเข้มข้น และ “เพคกะ โฮโนกะ” ซึ่งมีความหวานชั้นยอดของสตรอเบอร์รี่ฤดูร้อนกับฤดูใบไม้ร่วง ต้องจองล่วงหน้าเนื่องจากจำกัดรับรองได้เพียงกลุ่มเล็ก เพื่อให้ทุกท่านสามารถเพลิดเพลินกับการเก็บสตรอเบอร์รี่ได้อย่างผ่อนคลาย

ฟาร์มวาคายามะ เป็นฟาร์มของครอบครัวเกษตรกรที่ปลูกเกาลัด หน่อไม้ และต้นกล้าไผ่มาเป็นเวลา 3 รุ่นแล้ว ป่าไผ่อันงดงามที่แผ่ขยายไปทั่วพื้นที่ 24 เฮคเตอร์นี้ยังใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์และโฆษณาอีกด้วย ผู้เยี่ยมชมฟาร์มไม่เพียงแต่สามารถเดินผ่านป่าไผ่เท่านั้น แต่ยังสนุกกับการเก็บหน่อไม้และงานฝีมือจากไม้ไผ่อื่นๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ในวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ คุณสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์พิเศษในป่าไผ่ เช่น การดื่มมัทฉะในภาชนะไม้ไผ่ และการชมป่าไผ่ที่ประดับไฟแสงสี และที่คาเฟ่ เรายังเสิร์ฟอาหารที่ใช้วัตถุดิบที่ปลูกโดยเกษตรกรในบริเวณใกล้เคียง ตลอดจนเครื่องดื่มที่เหมาะกับการเดินเล่นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศและการใช้ประโยชน์จากไม้ไผ่ และห้องแสดงภาพและงานศิลปะต่างๆ ที่คุณสามารถชื่นชมงานฝีมือจากไม้ไผ่ของญี่ปุ่นได้ และยังมีร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เช่น หน่อไม้ เกาลัด และบลูเบอร์รี่ ฯลฯ รวมถึง “โอะคุริ” ขนมเกาลัดที่ทำโดยการนวดเกาลัดที่ปลูกมาอย่างทะนุถนอมอย่างใส่ใจ นอกจาก “หน่อไม้ต้มไร้สารเติมแต่ง” ซึ่งเป็นหน่อไม้บรรจุขวดที่เก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ผลิแล้ว เรายังจำหน่ายผลิตภัณฑ์หน่อไม้ต้นตำรับอีกด้วย

คฤหาสน์อีซึกะ โรงแรมที่ถูกลงทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ เป็นที่พักคุณภาพสูงที่ได้รับการปรับปรุงจาก “คฤหาสน์อีซึกะ” ที่มีอายุกว่า 100 ปี ด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคและตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย เป็นโรงแรมที่ผสานกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับร้านอาหารและร้านค้าที่อยู่ในเมือง ด้วยการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมือง คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเข้าพักกับบรรยากาศแบบใหม่ที่ผสมผสานกลมกลืนเข้ากับวิถีชีวิตแบบญี่ปุ่นอย่างแท้จริง มีบ้านหลังหลักบ้านหลังใหม่หลายหลังและโกดังสองแห่ง ภายในบริเวณอันกว้างใหญ่ อาคารส่วนใหญ่ยังคงสภาพเหมือนเมื่อตอนที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรก มีเตียงนุ่มสบาย โซฟา ห้องครัวทันสมัย ​​และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เพื่อการเข้าพักที่สะดวกสบาย แต่ความเก่าและใหม่อยู่ร่วมกันทำให้คุณสัมผัสได้ถึงลมหายใจแห่งชีวิตในสมัยนั้น นอกจากนี้ คุณยังสามารถปรับแต่งการเข้าพักของคุณด้วยการเพลิดเพลินกับอาหารที่รวบรวมจากร้านอาหารในพื้นที่ หรือเยี่ยมชมครอบครัวเกษตรกรพื้นบ้านเพื่อลองชิมอาหารของครอบครัวเกษตรกร และคุณยังสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ เช่น ตกปลาอะยุ การทำเครื่องปั้นดินเผา และปั่นจักรยานได้อีกด้วย

“ยานะ” คืออุปกรณ์ดักจับปลา (แพดักปลา) แบบสานมู่ลี่ที่สานบนไม้ไผ่โดยใช้ไม้ไผ่ที่ผ่าเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำไปวางติดตั้งขวางแม่น้ำให้ทางน้ำไหลเป็นรูปตัววี ให้น้ำไหลมารวมกัน เพื่อดักปลาอายุที่ว่ายมาตามกระแสนํ้าในช่วงฤดูวางไข่

“โอเสะ ยานะ” ตั้งอยู่ที่โมเทงิมาจิ จังหวัดโทชิงิ ถือเป็นกับดักยานะที่ใหญ่ที่สุดจากกับดักมากมายที่ถูกวางไว้บนแม่น้ำนาคากาวะ

ส่วนที่ให้ความรู้สึกสุดยอดของยานะคือ คุณสามารถดักจับปลาอะยุได้ในขณะที่สัมผัสถึงกระแสน้ำอันทรงพลังของแม่น้ำนาคากาวะที่ไหลผ่านเท้าของคุณ โดยเฉพาะตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนถึงปลายเดือนตุลาคม คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ดักจับปลาอะยุที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ที่ร้านอาหารที่อยู่ติดกัน คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารประเภทปลาแม่น้ำ เช่น ปลาอายุย่างเกลือ และปลาอายุทอด ขณะทอดสายตาออกไปที่ผิวน้ำของแม่น้ำ

จุดพักรถแห่งแรกที่สร้างขึ้นภายในจังหวัดโทจิงิ ที่ซึ่งมีทั้งการจัดจำหน่ายสินค้าพิเศษเฉพาะของท้องถิ่น สินค้าทางเกษตรกรรม ทั้งยังมีอีเวนท์ประจำฤดูกาล และกิจกรรมให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ในรูปแบบต่างๆ อีกด้วย

และยังมี “ชิโอะราเมนรสส้มยูซุ” จากร้าน “จูโคคุยะ” ของจุดพักรถโมเตะกิ ที่ชนะการแข่งขันอาหารจากจุดพักรถทั่วประเทศ “มิจิ-1 กรังปรีซ์” ถึง 3 ปีติดต่อกัน คือปี 2016, 2017 และ 2018 จนได้รับการบรรจุเข้าสู่หอเกียรติยศ

ในวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์จะสามารถชมรถจักรไอน้ำสายโมกะ ได้อย่างใกล้ชิดจากจุดพักรถโมเตะกิ

สวนสนุกที่เป็นสถานที่ของเซอร์กิตระดับโลกที่ใช้เป็นสถานที่แข่งขันชิงแชมป์โลก มีจักรยานยนต์เด็กแม้แต่เด็กเล็ก ๆ ก็สามารถควบคุมได้และเพลิดเพลินไปกับอารมณ์แข่งขับรถที่คาร์ทแลนด์ ที่ตั้งแต่นักเรียนระดับประถมศึกษาจนถึงผู้ใหญ่สามารถมาสัมผัสประสบการณ์ได้ และยังมีแหล่งทดลองประสบการณ์ตามธรรมชาติอย่างการค้นหาสัตว์ป่า และเพลิดเพลินกับการเดินเล่นในอากาศอย่างจุดที่น่าสนใจอย่างการ “โหนสลิง” ที่เป็นการเคลื่อนที่ของรอกผ่านสายเคเบิล โดยมีสถานที่ตั้งแคมป์และที่พักก็ยังอยู่ติดกันด้วย

โยชิดะมระอยู่ห่างจากโตเกียว 60 นาที ตั้งอยู่ที่ชายขอบทางทิศตะวันออกของเมืองชิโมะซูเกะ จังหวัดโทจิกิ ใกล้แม่น้ำคินุกาวะ เป็นสถานที่ที่อยู่ท่ามกลางความไม่มีอะไรใดๆ ห้อมล้อมด้วยไร่นา ท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวชอุ่ม เป็นแหล่งผลิตข้าว สตรอเบอร์รี่ แอสพารากัส หัวหอมและอื่นๆ ในหมู่บ้านโยชิดะมุระมีร้านอาหารอิตาเลี่ยน “Ristorante Italia Verace” (ริสโตรันเต้ อิตาเลีย เวราเช่) ซึ่งใช้ผลผลิตทางการเกษตรซึ่งให้รสสัมผัสของความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และร้านเบเกอรี่ “โยชิดะมุระ Bakery” ร้าน Ristorante Italia Verace เป็นร้านอาหารของเชฟที่ไปร่ำเรียนและฝึกฝนเคล็ดวิชาถึงแหล่งต้นตำรับในประเทศอิตาลี ใช้วัตถุดิบสดใหม่แสนอร่อยโดยความร่วมมือจากเกษตรกรท้องถิ่นอย่างไม่อั้น จึงเป็นร้านอาหารที่เสมือนเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้านโยชิดะมุระแห่งนี้ ส่วนร้าน

ที่ร้านเบเกอรี่ Yoshida Mura เชฟ Numao ซึ่งเคยฝึกทำขนมปังมาจากร้านเบเกอรี่ชื่อดัง เช่น The Standard Bakers ซึ่งเป็นร้านเบเกอรี่แท้ๆที่ตั้งอยู่ในเมือง Oya เมือง Utsunomiya และ Boulangerie Rire ในเมือง Shimotsuke นำเสนอขนมปังที่รังสรรค์และอบอย่างพิถีพิถัน

“เทศกาลดอกทานตะวัน” ซึ่งเป็นประเพณีประจำหน้าร้อนของ “เมืองโนะกิ เมืองแห่งดอกไม้และก้อนอิฐ” จะจัดขึ้นปลายเดือนกรกฎาคมของทุกปี ดอกทานตะวันกว่าสองหมื่นดอกจะบานสะพรั่งในทุ่งดอกทานตะวันที่มีพื้นที่ประมาณ 4.3 เฮกตาร์
ระหว่างช่วงที่มีการจัดงาน “วงกตทุ่งดอกทานตะวันขนาดใหญ่” จะถูกติดตั้งราวกับจะเป็นการร้อยเข้าไปท่ามกลางดอกทานตะวันที่สูงกว่า 2 เมตร สามารถเข้าชมได้ในราคา 200 เยน (สำหรับเด็กประถมขึ้นไป) สร้างความสนุกสนานให้กับผู้มาเยือน มีกำหนดว่าจะมีการเดินรถไฟสายชมดอกทานตะวันและ การนั่งเฮลิคอปเตอร์ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในเร็วๆ นี้ อีกทั้งยังมีการจัดเทศกาลดอกไม้ไฟ ไฮไลท์อยู่ที่พลุที่แผ่ตัวออกเป็นดอกไม้บานบนทุ่งดอกทานตะวัน

เพื่อให้ทราบถึงความใส่สบายของ “ผ้าไหมฮอมบะยูกิซึมุงิ” ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแบบจับต้องไม่ได้ของยูเนสโก ที่นี่จึงมีการจัด “การสัมผัสประสบการณ์สวมชุดกิโมโน” ให้ท่านสวมฟรีทั้งชุดกิโมโนและโอบิ ถ้าคืนภายใน 18:00น. ท่านสามารถสนุกสนานกับการเดินเล่นรอบเมืองโอะยะมะในชุดกิโมโนได้ ขอเชิญมาลองสัมผัสเนื้อผ้าที่อุ่นและเบาของผ้าไหมฮอมบะยูกิซึมุงิกันเถอะ!