ทริปเพลิดเพลินจนเต็มอิ่มไปกับอาณาจักรสตรอเบอร์รี่โทชิงิ

ฟาร์มเพื่อการท่องเที่ยวแห่งนี้ได้รับความนิยมสำหรับการเก็บสตรอเบอรี่พันธุ์โตชิโอโตะเมะที่สุกงอมตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนพฤษภาคม นอกจากสตรอเบอรี่แล้วก็ยังสามารถสนุกสนานกับการเก็บผลไม้ต่างๆ ตามฤดูกาล เช่น เชอร์รี่ องุ่น บลูเบอร์รี่ ฯลฯ ได้ อีกทั้งยังมีของฝาก เช่น ขนมหวาน แยมที่ใช้ผลไม้สด และอื่นๆ อีกมากมาย มีจัดงานอีเว้นท์ต่างๆ ตามฤดู เช่น คอร์สสอนทำขนมเค้ก เวิร์คช็อปทำแยม ร้านเบเกอรี่และบุฟเฟต์อาหารอิตาเลี่ยนจัดควบคู่ไปพร้อมกัน
ที่อิจิโกะโนะซะโตะ ท่านสามารถสนุกสนานไปกับการเก็บสุดยอดสตรอเบอรี่พันธุ์ “โทจิฮะเมะ” ซึ่งจะชิมรสชาติได้เฉพาะในฟาร์มของจังหวัดโตชิงิได้เท่านั้น “โทจิฮิเมะ” มีขนาดลูกใหญ่กว่าและเนื้อนุ่มกว่าพันธุ์ “โตชิโอโตะเมะ” มีเอกลักษณ์ที่รสเปรี้ยวน้อย หวานฉ่ำ แนะนำให้ทาทนเปรียบเทียบกับ “โตชิโอโตะเมะ”
มีเซตเมนูคุ้มค่าที่ได้รับความนิยมจากผู้ที่มาเป็นครอบครัวและมาแบบกลุ่ม เช่น เซตเก็บสตรอเบอรี่พร้อมอาหารเช้าที่คาเฟ่ เซตเก็บสตรอเบอรี่ตอนกลางคืนพร้อมอาหารเย็นที่คาเฟ่ ฯลฯ

บ่อน้ำอิซุรุฮะระเบนเทนเป็นแหล่งน้ำชื่อดังที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสิ่งแวดล้อม
เป็นอนุสาวรีย์ทางธรรมชาติที่กำหนดโดยจังหวัดโตชิงิและยังเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำอิซุรุกะวะอีกด้วย
ความใสสะอาดของน้ำในบ่อนั้น มองเห็นได้อย่างชัดเจนหากยืนมองลงไปจากริมฝั่ง
เห็นได้ชัดถึงประกายระยิบระยับของเกล็ดปลาคาร์ฟที่แหวกว่ายอย่างสง่างามในน้ำ และเห็นจนถึงพืชพันธุ์สีเขียวที่พริ้วไหวที่ก้นบ่อ
ในเวลาที่จะตักน้ำกลับไป โปรดแวะไปที่ด้านข้างของโรงแรมอิจิโนะคันที่อยู่ข้างๆ
ตัวอาคารศาลเจ้าในปัจจุบันที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในสมัยคามาคุระ เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันหาชมได้ยากซึ่งยังสืบทอดความงามของสถาปัตยกรรมที่ใช้วิธีการก่อสร้างแบบไดนามิกในยุคอดีตที่ “ไม่ใช้ตะปู”
เทพเบนไซเทนอิซุรุฮะระ (เทพสุรัสวดี) นับเป็นหนึ่งในเจ็ดเทพโชคลาภของซะโนะ (ไอเคียวฟุไซ) ได้รับการสร้างขึ้นเป็นเทพเจ้าผู้คุ้มครองการศึกษาด้านวิศวกรรมในปีค.ศ. 948 จากศรัทธาอันแรงกล้าใน “กังหันน้ำ” ของชาวเมืองท้องถิ่นจึงได้รับการประดิษฐานไว้ในสถานที่ปัจจุบัน

คำว่า “โดมันนากะ” ในชื่อร้านมีความหมายว่าอยู่ตรงกลางโดยสมบูรณ์ ชื่อนี้ตั้งมาจากการที่ร้านแทบจะตั้งอยู่ใจกลางหมู่เกาะญี่ปุ่น ทุกเช้า ผักสดจากเกษตรกรในท้องถิ่นจะเรียงรายอยู่บนชั้นวางสินค้าของตลาดซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ให้ท่านสามารถเลือกซื้อผักที่สด ฉ่ำ ปลอดภัยและไว้วางใจได้ ทั้งยังจำหน่ายข้าวที่คัดสรรมาอย่างดี เช่น ข้าวพันธุ์โคชิฮิคาริ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารจีนต้นตำรับและร้านอาหารแบบบริการตนเองที่ให้บริการอาหารญี่ปุ่นและอาหารตะวันตกอีกด้วย อีกทั้งยังมีเมนู เช่น ราเมนซาโนะซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นจากเมืองซาโนะ มันทอด และยามิโซะโซบะจากเทือกเขายามิโซะของโทชิงิ ให้ได้ลองอย่างจุใจ แต่ละร้านอาหารมีขนาดใหญ่รองรับได้มากกว่า 100 ที่นั่ง สามารถเพลิดเพลินกับอาหารการกินได้อย่างสบายๆ ในส่วนที่เป็นของหวาน มี 3 ร้านซึ่งใช้ความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติออกมารังสรรค์เมนูให้ได้อิ่มอร่อยไปกับของหวานนานาชนิด ได้แก่ ร้านที่ขายเฉพาะไอศครีมเจลาโต้ ร้านแพนเค้กแบบออริจินอล และร้านขายแซนด์วิช ทั้งยังมีพุดดิ้งและอื่นๆ สำหรับไว้เป็นของฝากอีกด้วย ทั้งนี้ ภายในอาคารของสถานีริมถนนมีความโอ่อ่ากว้างขวาง และมีบ่อแช่เท้าซึ่งใช้น้ำแร่ที่จะช่วยปลอบประโลมผิว และยังมีเก้าอี้นวดที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังได้รับการนวดในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง

สวนที่มีการแสดงพรรณไม้ที่ให้ความรู้สึกอย่างเต็มเปี่ยมของแต่ละฤดูกาลโดยภายในสวนจะมีพรรณไม้แต่ละฤดู โดยในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมแผงต้นวิสเทอเรียที่กำลังบานสะพรั่งนั้นมีความโดดเด่นที่สุด โดยมีต้นวิสเทอเรียต้นใหญ่ 4 ต้นและ อุโมงค์วิสเทอเรียขาวที่มีความยาวกว่า 80 เมตรเป็นอนุสาวรีย์ทางธรรมชาติของจังหวัดโทชิงิซึ่งได้รับการบันทึกไว้เป็นการยืนยันความงดงาม โดยในตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟเพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศเหมือนฝัน ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจนถึงฤดูหนาว “ฮิคาริโนะฮานะโนะนิวะ (สวนดอกไม้แสง)” ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนี่งในสามสถานที่แสดงแสงไฟที่ใหญ่ที่สุดในคันโต ซึ่งจะเนืองแน่นไปด้วยผู้ที่พาครอบครัวและคู่รักไปเยี่ยมชม
โดยในหนึ่งปีมีนักท่องเที่ยวจากภายในและภายนอกเมืองเข้าเยี่ยมชมกว่า 1 ล้านคนต่อปี
☆

“คะนะฮัน เรียวกัง” ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองโทชิงิ เป็นเรียวกังที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ก่อตั้งขึ้นในสมัยเอ็งเอแห่งเอโดะ อาคารที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาห้องพักแขกนั้นเป็นอาคารที่สร้างขึ้นในปี 1918 เพื่อรองรับเจ้าหน้าที่กองทัพบกในระหว่างการฝึกซ้อมใหญ่ที่จัดขึ้นที่โรงเรียนมัธยมต้นโทชิงิ(ปัจจุบันคือโรงเรียนมัธยมโทชิงิ) หลังจากนั้นก็คันอินโนะมิยะซึ่งเป็นราชวงศ์ญี่ปุ่นได้ไปพักด้วย ภายในโรงแรม คุณสามารถเห็นคลังเก็บและสถาปัตยกรรมที่ทำให้นึกถึงประวัติศาสตร์นั้น และสามารถใช้เวลาผ่อนคลายเพื่อรำลึกถึงความหลังได้ นอกเหนือจากห้องพักสำหรับแขกกลุ่มเล็ก เช่น คู่รักและสามีภรรยาแล้ว เรายังมีห้องแยกที่เหมาะสำหรับการเข้าพักระยะยาวสำหรับกลุ่มใหญ่อีกด้วย ในส่วนของอาหารซึ่งเป็นหนึ่งในความสุขของการพักค้างคืนนั้น คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์สมัยเอโดะบนถนนในย่านโขะเอโดะ และลิ้มลอง “อาหารเอโดะของโทชิงิ” ประกอบด้วยอาหารดั้งเดิมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารพื้นบ้าน และอาหารที่สร้างขึ้นในสมัยเอโดะตามต้นฉบับ นวัตกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ช่วยเพิ่มรสชาติของส่วนผสมแต่ละอย่าง และกระตุ้นต่อมรับรสสมัยใหม่ได้อย่างน่าประหลาดใจและน่าพึงพอใจ

เมืองแห่งการค้าที่มีการพัฒนาทางการค้ามาจากเมืองที่พักธรรมดามาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 โดยใช้การขนส่งผ่านทางแม่น้ำอุซึมะที่ไหลผ่านใจกลางของเมืองเชื่อมการติดต่อซื้อขายกับเมืองเอโดะ (ชื่อเรียกเก่าของโตเกียว) โดยถนนโซโนะมาชิที่อยู่ริมแม่น้ำอุซึมะและผ่านใจกลางเมืองนั้น ยังคงหลงเหลือโกดังเก็บสินค้าที่มีการทาสีดำและกำแพงสีขาวอยู่ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินนึกย้อนเวลาไปถึงความเจริญรุ่งเรืองในเวลานั้น

โยชิดะมระอยู่ห่างจากโตเกียว 60 นาที ตั้งอยู่ที่ชายขอบทางทิศตะวันออกของเมืองชิโมะซูเกะ จังหวัดโทจิกิ ใกล้แม่น้ำคินุกาวะ เป็นสถานที่ที่อยู่ท่ามกลางความไม่มีอะไรใดๆ ห้อมล้อมด้วยไร่นา ท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวชอุ่ม เป็นแหล่งผลิตข้าว สตรอเบอร์รี่ แอสพารากัส หัวหอมและอื่นๆ ในหมู่บ้านโยชิดะมุระมีร้านอาหารอิตาเลี่ยน “Ristorante Italia Verace” (ริสโตรันเต้ อิตาเลีย เวราเช่) ซึ่งใช้ผลผลิตทางการเกษตรซึ่งให้รสสัมผัสของความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และร้านเบเกอรี่ “โยชิดะมุระ Bakery” ร้าน Ristorante Italia Verace เป็นร้านอาหารของเชฟที่ไปร่ำเรียนและฝึกฝนเคล็ดวิชาถึงแหล่งต้นตำรับในประเทศอิตาลี ใช้วัตถุดิบสดใหม่แสนอร่อยโดยความร่วมมือจากเกษตรกรท้องถิ่นอย่างไม่อั้น จึงเป็นร้านอาหารที่เสมือนเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้านโยชิดะมุระแห่งนี้ ส่วนร้าน

ที่ร้านเบเกอรี่ Yoshida Mura เชฟ Numao ซึ่งเคยฝึกทำขนมปังมาจากร้านเบเกอรี่ชื่อดัง เช่น The Standard Bakers ซึ่งเป็นร้านเบเกอรี่แท้ๆที่ตั้งอยู่ในเมือง Oya เมือง Utsunomiya และ Boulangerie Rire ในเมือง Shimotsuke นำเสนอขนมปังที่รังสรรค์และอบอย่างพิถีพิถัน

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นความเป็นมาของการทำเหมืองแร่ของ “หินโอยะ” ซึ่งเป็นสินค้าพื้นเมืองที่มีเฉพาะที่เมืองอุทซึโนะมิยะ โดยมีการจัดแสดงนิทรรศการการขุด ด้วยวิธีที่ใช้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17  เครื่องมือการขนส่งและการเปลี่ยนแปลงวัสดุวิธีการทำเหมืองแร่เป็นต้น โดยเหมืองแร่ใต้ดินนั้นมีพื้นที่ขนาดใหญ่มากถึง 20000 ตรม. โดยสามารถบรรจุสนามเบสบอลได้ 1 สนาม ซึ่งให้บรรยากาศที่ยอดเยี่ยมที่ชวนให้นึกถึงซากปรักหักพังของโรมันโบราณ โดยมักถูกนำไปใช้ในหลายรูปแบบ เช่นการถ่าย PV ของนักร้องดัง สถานที่ถ่ายทำหนัง คอนเสิร์ต การแสดงเวที ละครโน งานเลี้ยงของบริษัทและสถานที่จัดงานแต่งงานเป็นต้น

ฟาร์มท่องเที่ยวเก็บกินสตรอเบอร์รี่แห่งนี้ ตั้งอยู่ตรงกลางของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 293 ซึ่งเชื่อมต่อกับ “เขตโอยะ” ที่ได้รับการกำหนดให้เป็นมรดกของญี่ปุ่น กับ “หมู่บ้านโรแมนติก” ซึ่งมีชื่อเสียงด้านจุดพักรถ ฟาร์มแห่งนี้จำหน่ายสตรอเบอร์รี่พันธุ์ “โทจิไอกะ” ของจังหวัดโทชิงิ และมีร้านค้าและร้านกาแฟอยู่ด้วย ที่นี่เรายังจำหน่ายสตรอเบอร์รี่โดยตรงและผลิตภัณฑ์แปรรูปดั้งเดิมอีกด้วย หลังจากเพลิดเพลินกับการเก็บกินสตรอเบอร์รี่แล้ว คุณสามารถเพลิดเพลินกับเจลาโต้และสมูทตี้ได้ที่ร้านกาแฟภายในร้าน ที่ Rossa Berry คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเก็บกินสตรอเบอร์รี่ได้ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน เชิญมาสัมผัสประสบการณ์เก็บกินสตรอเบอร์รี่ที่มีลักษณะคล้ายอัญมณีที่ล้นทะลักออกมาภายในเรือนเพาะปลูก

ฟาร์มวาคายามะ เป็นฟาร์มของครอบครัวเกษตรกรที่ปลูกเกาลัด หน่อไม้ และต้นกล้าไผ่มาเป็นเวลา 3 รุ่นแล้ว ป่าไผ่อันงดงามที่แผ่ขยายไปทั่วพื้นที่ 24 เฮคเตอร์นี้ยังใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์และโฆษณาอีกด้วย ผู้เยี่ยมชมฟาร์มไม่เพียงแต่สามารถเดินผ่านป่าไผ่เท่านั้น แต่ยังสนุกกับการเก็บหน่อไม้และงานฝีมือจากไม้ไผ่อื่นๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ในวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ คุณสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์พิเศษในป่าไผ่ เช่น การดื่มมัทฉะในภาชนะไม้ไผ่ และการชมป่าไผ่ที่ประดับไฟแสงสี และที่คาเฟ่ เรายังเสิร์ฟอาหารที่ใช้วัตถุดิบที่ปลูกโดยเกษตรกรในบริเวณใกล้เคียง ตลอดจนเครื่องดื่มที่เหมาะกับการเดินเล่นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศและการใช้ประโยชน์จากไม้ไผ่ และห้องแสดงภาพและงานศิลปะต่างๆ ที่คุณสามารถชื่นชมงานฝีมือจากไม้ไผ่ของญี่ปุ่นได้ และยังมีร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เช่น หน่อไม้ เกาลัด และบลูเบอร์รี่ ฯลฯ รวมถึง “โอะคุริ” ขนมเกาลัดที่ทำโดยการนวดเกาลัดที่ปลูกมาอย่างทะนุถนอมอย่างใส่ใจ นอกจาก “หน่อไม้ต้มไร้สารเติมแต่ง” ซึ่งเป็นหน่อไม้บรรจุขวดที่เก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ผลิแล้ว เรายังจำหน่ายผลิตภัณฑ์หน่อไม้ต้นตำรับอีกด้วย

บาร์ที่อุสึโนะมิยะมีเหล่าบาร์เทนเดอร์มากฝีมือล้วนแล้วแต่เคยได้รางวัลจากการประกวดค็อกเทลมาแล้วทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่น ทุกคนจะได้เพลิดเพลินไปกับค็อกเทลสูตรพิเศษที่ทำขึ้นมาในช่วงเวลาจำกัดเท่านั้น โดยใช้ “สตรอว์เบอร์รี” ของจังหวัดโทชิงิซึ่งเป็นจังหวัดที่ปลูกสตรอว์เบอร์รีได้เป็นอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่นมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ

ขอเชิญดื่มด่ำไปกับค่ำคืนของอุสึโนะมิยะ เมืองแห่งค็อกเทลที่คุณจะได้สัมผัสทั้งสี， รส และกลิ่น…
☆

ฟาร์มสตรอเบอร์รี่แห่งนี้ดำเนินการโดยบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างเมือง Kanuma และ JA

ที่ฟาร์ม คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเก็บสตรอเบอร์รี่พันธุ์ โทจิโอโตเมะ(Tochiotome) และ โทจิไอกะ(Tochi-Aika) ซึ่งถือเป็นพันธุ์สตรอเบอร์รี่ที่ขึ้นชื่อของ โทชิงิ

การไปเก็บสตรอเบอร์รี่นั้นต้องทำการจองก่อนล่วงหน้า และคุณสามารถทานได้ไม่อั้นเป็นเวลา 45 นาที
เรือนกระจกไม่มีสิ่งกีดขวางและมีห้องน้ำ ดังนั้นทุกคนจึงสามารถไปเก็บสตรอเบอร์รี่ได้อย่างปลอดภัย

ทางร้านยังขาย โทจิฮิเมะ(Tochihime) ซึ่งเป็นสตรอเบอร์รี่พันธุ์หายากที่ได้ชื่อว่าเป็นพันธุ์หายากเนื่องจากมีเนื้อนุ่ม และยังมีพันธุ์ สกายเบอรี(Skyberry) อีกด้วย

ร้านอาหารที่บริหารจัดการโดยตรงโดยร้านเบเกอรี่ของโรงแรมคานายะ ตั้งอยู่ติดกับหอประวัติศาสตร์ของโรงแรมคานายะ สามารถเพลิดเพลินกับอาหารได้อย่างผ่อนคลายภายในร้านอันกว้างขวาง จากการจับคู่กันระหว่างขนมปังจากร้านเบเกอรี่ของโรงแรมคานายะกับวัตถุดิบสดใหม่คุณภาพสูงซึ่งเชฟเป็นคนคัดสรรด้วยตัวเอง ก่อให้เกิดเมนูที่เปี่ยมไปด้วยความหลากหลายให้ได้เพลิดเพลิน มื้อกลางวันที่ได้รับความนิยม อาทิเช่น “กราแตงขนมปังแฮมเบิร์กสตู” ซึ่งเป็นแฮมเบิร์กตุ๋นซอสเดมิกราส์สุดพิเศษอยู่ในขนมปังซาวโดฝรั่งเศสชิ้นเล็ก ท็อปปิ้งด้วยชีสด้านบนแล้วอบในเตาอบ ปริมาณอิ่มจุใจ “หมูยูเมะผัดซอสขิง” ซึ่งใช้ “หมูยูเมะ” ที่ผลิตในจังหวัดโทชิงิ “สตูเนื้อวัว” ซึ่งเป็นเมนูต้นตำรับของเชฟที่ได้รับความนิยมทุกฤดูกาล และอื่นๆ อีกทั้งยังมีร้านเบเกอรี่ของโรงแรมคานายะที่ตั้งอยู่ควบคู่กัน นอกจากขนมปังแล้วก็ยังมีขนมหวานอย่างอื่น เช่น คุกกี้ และอื่นๆ อีกมากมายครบครัน

“ศาลเจ้านิกโกโทโชงู”เป็นศาลเจ้าที่อุทิศให้แก่โชกุนโทคุงะวะอิเอะยะสุ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งใน “ศาลเจ้าและวัดของนิกโก” ที่เป็นตัวแทนมรดกโลกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งกลุ่มตัวอาคารของศาลเจ้าในปัจจุบันได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 17 โดยภายในมีอาคารเรียงรายที่ถือเป็นสมบัติของชาติถึง 8 หลัง สิ่งก่อสร้าง 55 หลังที่รวมเอาสมบัติอันมีค่าทางวัฒนธรรมที่สำคัญไว้ถึง 34 หลัง โดยรวบรวมเอาช่างฝีมือที่มาจากทุกพื้นที่ทั่วประเทศ มารังสรรค์สร้างประติมากรรมงานลงรักชิ้นเอกที่มีสีสันสดใสและสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพแกะสลักที่ต้องดูให้ได้อย่าง “แมวนอนหลับ” ที่สื่อถึงการอธิษฐานขอให้โลกสงบสุข และภาพ “ลิงสามตัว” ที่สือถึงการไม่ดู ไม่พูดและไม่ฟัง

คือชื่อเรียกโดยรวมของวัด อาคารและหอที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาที่อยู่ภายในภูเขานิกโก ถือเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในภูเขานิกโก ที่ได้รับการลงทะเบียนเป็นมรดกโลกของ “ศาลเจ้าและวัดของนิกโก” ที่รวมเอา “ซันบุทซึโด” ที่ประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์และอาคารอีก 38 หลัง ซึ่งหากได้เข้าร่วมในพิธี “โกฮังชิกิ” ที่จะจัดขึ้นทุกวันที่ 2 เมษายนของทุกปีก็จะได้รับโชคในเรื่องของการไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ บุคคลในครอบครัวมีอายุยืนยาวเป็นต้น เหล่าอาคารที่อยู่ด้านข้างและสวนญี่ปุ่น “โชโยเอ็น” ที่ถึงแม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็ยังเป็นที่นิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโชโยเอ็นถือเป็นจุดเด่นในการชมใบไม้แดงของนิกโก

ร้านเฉพาะทางด้านพุดดิ้งที่ถือกำเนิดขึ้นในนิกโกด้วยบรรยากาศเรโทรน่ารัก ชวนให้หวนระลึกถึงความทรงจำโรแมนติคในยุคไทโช พุดดิ้งใช้วัตถุดิบที่ผลิตในนิกโก เช่น นมวัวผลิตในจังหวัดโทชิงิ ไข่นิกโกโกะโยรัน ฯลฯ นำมาปรุงภายในร้าน มีขายพุดดิ้งหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น “พุดดิ้งนิกโก” ที่มีรสสัมผัสนุ่มแทบละลายในปาก “พุดดิ้งโอโตเมะ” ที่ใช้สตรอเบอร์รี่จากจังหวัดโทชิงิ และ “พุดดิ้งฮาล์ฟซอฟต์” ซึ่งเป็นพุดดิ้ลโปะด้วยไอศกรีมซอร์ฟเสิรฟ์รสวานิลลา อีกทั้งยังมี “พุดดิ้งเกาลัดญี่ปุ่น” และ “พุดดิ้งซากุระ” ที่ขายจำกัดเฉพาะฤดูกาล รอการมาเยี่ยมเยียนจากทุกท่าน