เพลิดเพลินกับโทจิงิในฤดูหนาว ที่ Snow Resort นาสุ 3 วัน

จุดพักรถแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าแหล่งน้ำพุร้อน ภายในพื้นที่มีศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลการท่องเที่ยว หอหัตถกรรม อาคารจัดแสดงสินค้า นาสุโตรัน ประตูนะกะยะมง ลานแกะสลัก ศูนย์ผลผลิตท้องถิ่น ร้านขายสินค้าส่งตรงจากแหล่งผลิตฟุเระไอโนะซะโตะ ฯลฯ สามารถซื้อผักสดที่เก็บเกี่ยวในท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์แปรรูปผลผลิตทางการเกษตรเป็นของฝากได้ นอกจากนี้ก็ยังมีการจัดแสดงและขายผลผลิตจากแหล่งอื่น ห้องเรียนสัมผัสประสบการณ์หัตถกรรมทำมือและอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
ในบริเวณใกล้เคียงก็ยังมีสถานที่สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ หอศิลป์ และอื่นๆ ตั้งอยู่เป็นจำนวนมากโดยมีทิวทัศน์ของภูเขานาสุกับเทือกเขาต่างๆ อันยิ่งใหญ่ตระการตาเป็นพื้นหลัง

ป่าที่มีพื้นที่กว่า 560 เฮกเตอร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินนาสุอิมพีเรียลวิลล่าที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม เป็นป่าธรรมชาติที่มีต้นบีชขึ้นอย่างหนาแน่นโดยมีสัตว์ป่าอย่างเช่น สุนัขจิ้งจอก กระต่าย หมีและสัตว์สงวนอย่างกระรอกจิ๋วดอร์เม้าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยได้มีการจัดทำเส้นทางเดินพร้อมกับโปรแกรมกิจกรรมทางธรรมชาติและไกด์ไว้ให้แล้ว ซึ่งในฤดูหนาวการใส่รองเท้าเดินหิมะเดินย่ำไปในเส้นทางเดินที่มีหิมะปกคลุมหนาเป็นที่นิยมมาก และยังพลาดไม่ได้กับ “น้ำตกโคมะโดเมะ” น้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สวยราวกับภาพมายาปกคลุมแมกไม้

ก้อนหินที่กลิ้งไปทั่วกับภูมิทัศน์ที่สวยงามของพื้นที่กว้างใหญ่ที่เคยรกร้าง
นกและสัตว์ที่เข้าไปใกล้จนได้รับก๊าซพิษจนถึงระดับนึงก็จะตาย ที่มาของชื่อคือเชื่อกันว่าเป็นผลมาจากการกระทำของวิญญาณของสุนัขจิ้งจอกที่สิงอยู่ในหิน ซึ่งหากเข้าไปยืนอยู่บริเวณโดยรอบจะได้กลิ่นของกำมะถัน ซึ่งก่อให้เกิดบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีทางเดินเท้าที่จัดเตรียมไว้ไปจนถึงหอดูดาวนาสุ เนื่องจากว่ามันอยู่ใกล้บ่อน้ำพุร้อนนาสุยุโมโตะจึงกลายเป็นสถานที่แวะพักผ่อนของนักท่องเที่ยวของเมืองน้ำพุร้อน  แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการบันทึกไว้ของชาติเมื่อวันที่  18 มีนาคม 2557

ยอดเขาหลักของเทือกเขานาสุที่มีแหล่งน้ำพุร้อนกระจายอยู่ที่ตีนเขาซาอุสุดาเกะ โดยมีต้นกำเนิดจากการค้นพบ “ชิกะโนะยุ (บ่อน้ำร้อนของกวาง)” ในศตวรรษที่ 7 ชื่อ “ชิกะโนะยุ (บ่อน้ำร้อนของกวาง)” นั้นมาจากกวางที่ได้รับบาดเจ็บเข้ามาที่บ่อน้ำร้อนนี้ทำให้บาดแผลทุเลาลงซึ่งทำให้บ่อน้ำร้อนนี้เฟื่องฟูเป็นแหล่งแช่บ่อน้ำร้อนบำบัดมาตั้งแต่อดีต ซึ่งในศตวรรษที่ 12 ซามูไรมินาโมะโตะ โนะ โยริโมะโตะและในศตวรรษที่ 17 นักประพันธ์ มัทซึโอะ บาโช ได้แวะเข้ามาเยี่ยมชมจนกลายเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียง ในปัจจุบันมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง ตั้งแต่โรงแรมที่ทันสมัยของรีสอร์ทบนที่ราบสูง ไปจนถึงโรงอาบน้ำที่ทำจากไม้ที่สามารถดูการละเล่นยุโมะมิที่ยังคงภาพลักษณ์ดั้งเดิมไว้

ฟาร์มท่องเที่ยวที่ให้ท่านได้สนุกสนานกับการเล่นกับสัตว์ต่างๆ เช่น วัว ม้า แกะ ลา และอื่นๆ ที่ถูกปล่อยให้อยู่อย่างอิสระบนที่ราบสูงที่ระดับความสูง 700 เมตรของตีนเขานาสุดะเกะ ฟาร์มแห่งนี้ยังหลงเหลือสภาพตามธรรมชาติเอาไว้เท่าที่ทำได้เพื่อไม่ให้สูญเสียสภาพฟาร์มที่เคยเป็นในอดีต นอกจากจะได้เพลิดเพลินกับการขี่ม้า ทดลองทำเนย ยิงธนู พัตเตอร์กอล์ฟ และอื่นๆ แล้วก็ยังรวบรวมของยอดนิยมอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากนม และนมวัวที่ขายภายในฟาร์ม และยังสามารถเพลิดเพลินกับการชมความยิ่งใหญ่ของทุ่งนาสุโนะกะฮะระได้จากฟาร์มอีกด้วย

เพลิดเพลินกับการเก็บสตรอว์เบอร์รีได้ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงพฤษภาคม และรับประทานได้ไม่จำกัดเป็นเวลา 30 นาที
สตรอว์เบอร์รี่ถูกเพาะเลี้ยงโดยน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติบนภูเขานาสุตะเกะร่วมกับแสงแดดอ่อนๆ ทำให้มีเนื้อที่ฉ่ำอร่อยอีกทั้งยังสามารถซื้อสตรอเบอร์รี่เป็นแพ็คกลับไปได้ที่ร้าน”โอกะชิ โดะ ชิโระ”

เพลิดเพลินกับกิจกรรมหิมะต่างๆ บนที่ราบสูงกับผู้เชี่ยวชาญที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับธรรมชาติของนาสุเป็นอย่างดี
พื้นที่มีความลาดเอียงเล็กน้อย จึงเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่เพิ่งลองกิจกรรมใส่รองเท้าลุยหิมะเป็นครั้งแรก มีรถบัสเฉพาะคอยรับส่งให้บริการ (กรุณาทำการจองผ่านเว็บไซต์ก่อนเข้าร่วม)

หมู่บ้านน้ำพุร้อนที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่นักประพันธ์อันเลื่องชื่อของญี่ปุ่นมักจะเข้ามาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก ซึ่งในพื้นที่เดียวกันนั้นน้ำพุร้อนที่ผุดขึ้นมามีคุณภาพและองค์ประกอบที่หลากหลาย โดยสามารถที่จะเลือกน้ำร้อนได้ตามสภาพร่างกายและอารมณ์ เส้นทางเดินเล่นไปตามภูเขาลำธารก็ยังมีความอุดมสมบูรณ์ มักจะเป็นที่นิยมในการใช้เป็นที่พักตากอากาศช่วงฤดูร้อน ใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วงก็ยังสวยงาม ยามเดินเล่นในเมืองน้ำพุร้อนอาหารกินเล่นชื่อดังของท้องถิ่นอย่าง “โทเทะยากิ” (เครปที่มีเนื้อแป้งหนา) ก็กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

สกีและสโนว์บอร์ดรีสอร์ทที่น่าดึงดูดใจตรงที่สามารถเข้าถึงได้จากใจกลางกรุงโตเกียว นอกจากจะเพลินเพลินไปกับเส้นทางลงเขาที่มีความยาว 3 กม. ทั้ง 12 เส้นทางแล้ว ยังมีตั้งแต่ฮาฟไปป์ (Halfpipe) และเรซแบนสำหรับผู้เล่นขั้นสูง ไปจนถึงเส้นทางสำหรับผู้เริ่มต้นและเด็กๆ ที่จะสามารถเพลิดเพลินไปกับการเล่นหิมะได้ โดยในฤดูร้อน ลานสกีที่ลาดชันจะกลายเป็นทุ่งดอกลิลลี่ ในฤดูใบไม้ร่วงจะสามารถชมวิวทิวทัศน์ของใบไม้แดงได้จากกระเช้าลอยฟ้า ซึ่งถือเป็นสถานที่ที่สามารถเพลิดเพลินได้ตลอดสี่ฤดูกาล

จุดแฟชั่นแห่งใหม่ที่มีร้านค้าสุดเก๋ เช่น ร้านดอกไม้ ร้านขายเครื่องประดับอัญมณี ร้านขายผ้าถัก และเวิร์กชอปเครื่องหนังที่ตั้งอยู่รอบๆ ร้านกาแฟชื่อดัง บางทีคุณอาจจะค้นพบของสุดเก๋จากที่แห่งนี้ก็ได้