เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ (UX) หากคุณยังคงเรียกดูเว็บไซต์ต่อ แสดงว่าคุณยินยอมให้ใช้คุกกี้บนเว็บไซต์นี้ โปรดดูนโยบายคุกกี้สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม

การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วยออนเซน
(บ่อน้ำพุร้อน) ของญี่ปุ่น

สัมผัสสมบัติล้ำค่าของจังหวัดโทชิงิ

เพียง 50 นาทีจากโตเกียวโดยรถไฟชินคันเซน จังหวัดโทชิงิเป็นที่รู้จักจากมรดกโลก "ศาลเจ้าและวัดนิกโก'' เช่น ศาลเจ้านิกโกโทโชกุ และที่อื่นๆ ที่นี่มีแหล่งน้ำพุร้อนหลายแห่งซึ่งเปี่ยมไปด้วยคุณสมบัติที่สมบูรณ์ของน้ำพุร้อนในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ซึ่งจะมอบความผ่อนคลายอย่างล้ำลึกแก่ผู้มาเยือน นอกจากน้ำพุร้อนแล้ว ก็ยังมีอาหารญี่ปุ่นที่เฮลตี้ ปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่ในท้องถิ่น ตลอดจนกิจกรรมเพื่อสุขภาพ เช่น การคัดลอกบทสวดมนต์และการทำสมาธิซะเซนในวัดที่ท่านสามารถเกิดความตระหนักรู้ในตัวเอง การปั่นจักรยานที่จะพาท่านไปเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงาม ฯลฯ

ญี่ปุ่นมีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ประมาณ 10% ของโลก จึงอุดมไปด้วยน้ำพุร้อนจากภูเขาไฟ เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต พบว่าการแช่ออนเซนมีปรากฏอยู่ในวรรณกรรมตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 6 ที่ญี่ปุ่น การไปพักแรมในแหล่งน้ำพุร้อนเป็นเวลานานๆ เพื่อแช่ออนเซนเพื่อรักษาบาดแผลหรือความเจ็บป่วยเรียกว่า "การบำบัดด้วยน้ำพุร้อน'' และถือเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาสุขภาพที่ชาวญี่ปุ่นคุ้นเคยกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ อีกทั้งยังมีบันทึกเรื่องราวที่กล่าวถึงสรรพคุณของบ่อน้ำพุร้อนในจังหวัดโทชิงิ เช่น "ซามูไรที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสู้รบได้มารักษาบาดแผลจนหาย'' อีกด้วย
ในยุคปัจจุบัน สรรพคุณของออนเซนได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ โดยพบว่าสารเคมีในน้ำพุร้อนที่มีต้นกำเนิดมาจากภูเขาไฟมีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการต่างๆ เช่น ความเหนื่อยล้า บาดแผล โรคผิวหนังอักเสบ ฯลฯ และว่ากันว่าดีต่อสุขภาพ ด้วยเหตุผลที่ว่าการทำให้ร่างกายอบอุ่นจะช่วยทำให้เลือดลมไหลเวียนได้ดี และช่วยเพิ่มการเผาผลาญในร่างกาย เป็นต้น
การแช่ออนเซนเป็นวิธีการรักษาสุขภาพที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบมาอย่างยาวนาน และเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมดั้งเดิม
จึงอยากขอเชิญชวนให้ท่านได้มาลองซักครั้งเมื่อมีโอกาสเดินทางมาญี่ปุ่น

■ คลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลวิธีการเข้าออนเซน

ออนเซนในจังหวัดโทชิงิมีความภาคภูมิใจในคุณภาพของน้ำพุร้อนและสรรพคุณที่หลากหลาย มอบการบำบัดที่ดีต่อใจของผู้คนที่มาเยือน ในประเทศญี่ปุ่นมีน้ำพุร้อนอยู่ทั้งหมด 10 ชนิด ซึ่ง 7 ใน 10 ชนิดนี้สามารถเข้าลงแช่ได้ที่จังหวัดโทชิงิ ด้วยเหตุนี้ จึงสามารถเลือกแช่ออนเซนที่เหมาะกับอาการป่วยและความกังวลได้ นอกจากนี้แหล่งน้ำพุร้อนแต่ละแห่งก็ยังห้อมล้อมไปด้วยความงามของธรรมชาติตลอดสี่ฤดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแช่น้ำพร้อมเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพของใบไม้แดงหรือทัศนียภาพของหิมะนั้นเป็นสิ่งที่สวยงามเหนือคำบรรยาย

<แหล่งน้ำพุร้อนที่แนะนำแยกตามอาการ>
จะขอแนะนำแหล่งน้ำพุร้อนขึ้นชื่อพร้อมสรรพคุณ โดยจะแนะนำให้เหมาะสมกับอาการเจ็บและความกังวล
  • ■บรรเทาอาการนอนไม่หลับ อาการไหล่ติดและอื่นๆ ซึ่งเกิด　จากความปั่นป่วนของระบบประสาทอัตโนมัติ
    <ชนิดของน้ำพุร้อนที่แนะนำ : น้ำพุร้อนธรรมดา>
    เป็นบ่อน้ำพุร้อนชนิดที่มีมากที่สุดในจังหวัดโทชิงิ หากมีค่า pH 8.5 ขึ้นไปจะเรียกว่า "น้ำพุร้อนอัลคาไลธรรมดา" ซึ่งมีลักษณะพิเศษคือสัมผัสที่นุ่มและไม่ระคายเคืองต่อร่างกาย หลังอาบน้ำผิวจะเรียบเนียน
    ●แหล่งน้ำพุร้อนขึ้นชื่อ
    บะโตออนเซน นิกโกออนเซน คินุกาวะออนเซน คาวาจิออนเซน คาวามาตะออนเซน ยุนิชิกาวะออนเซน อิตามุโระออนเซน

  • ■ปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตและอาการขี้หนาว
    <ชนิดของน้ำพุร้อนที่แนะนำ : น้ำพุร้อนคลอไรด์>
    ในน้ำร้อนประกอบด้วยเกลือ โดยเกลือจะเกาะติดบนผิวจากการแช่น้ำ และการก่อตัวของฟิล์มเกลือบนผิวหนังนี้เองที่จะช่วยให้ความร้อนในร่างกายหนีออกไปได้ยาก จึงส่งผลให้ร่างกายอบอุ่นและการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น นอกจากนี้ ก็ยังมีประสิทธิภาพของการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และดีต่อผู้ที่มีผิวแห้ง
    ●แหล่งน้ำพุร้อนขึ้นชื่อ
    คาวามาตะออนเซน ชิโอบาระออนเซนเคียว คิซึเระกาวะออนเซน

  • ■แก้ปัญหาผิวิ
    <ชนิดของน้ำพุร้อนที่แนะนำ : บ่อน้ำพุร้อนกำมะถัน>
    ออนเซนนี้มีกลิ่นของก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื่องจากมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรคและล้างพิษสูง จึงช่วยขจัดแบคทีเรียบนผิวและสารต้นตอที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้บนผิวหนังที่เป็นบ่อเกิดปัญหาผิว นำไปสู่สุขภาพผิวที่แข็งแรง ในทางกลับกันด้วยประสิทธิภาพในการแทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังที่สูงจึงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เด็กและผู้สูงอายุ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องระมัดระวัง เมื่อขึ้นจากบ่อออนเซนแล้วควรอาบน้ำสะอาดเพื่อล้างสารประกอบที่อยู่ในน้ำพุร้อนออกเพื่อความสบายใจ
    ●แหล่งน้ำพุร้อนขึ้นชื่อ
    โอคุนิกโกยุโมโตะออนเซน คาวามาตะออนเซน โอคุคินุออนเซน นาสุออนเซนเคียว

  • <ชนิดของน้ำพุร้อนที่แนะนำ : บ่อน้ำพุร้อนที่มีฤทธิ์เป็นกรด>
    ด้วยความที่น้ำพุร้อนมีความเป็นกรดเข้มข้น จึงมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียสูงและมีประสิทธิภาพในการรักษาความสะอาดของผิว จากความเป็นกรดที่สูงและอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังอย่างรุนแรง จึงควรหลีกเลี่ยงการแช่น้ำนาน ๆ และเมื่อแช่เสร็จแล้วขอแนะนำให้ชำระล้างสารประกอบในน้ำพุร้อนออก ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เด็ก และผู้สูงอายุจำเป็นต้องระมัดระวังในการแช่ออนเซนประเภทนี้เป็นพิเศษ
    ●แหล่งน้ำพุร้อนขึ้นชื่อ
    นาสุออนเซนเคียว ชิโอบาระออนเซ็นเคียว

  • ■ปรับสีผิวให้ขาวขึ้น เพื่อผิวสวย
    <ชนิดของน้ำพุร้อนที่แนะนำ : บ่อน้ำพุร้อนไฮโดรเจนคาร์บอเนต์>
    เนื่องจากน้ำชนิดนี้จะช่วยทำความสะอาดคราบไขมันและสารคัดหลั่งจากผิวหนัง ขจัดเซลล์ผิวเก่าและอื่นๆ จึงมีประสิทธิผลในการทำให้ผิวเรียบเนียน เมื่อลงไปแช่น้ำร้อน จะรู้สึกได้ว่าผิวจะผุดผ่องขึ้น กล่าวขานกันว่าออนเซนชนิดนี้เป็นตัวแทนของ "น้ำพุร้อนเพื่อความงาม'' และ "บ่อน้ำพุร้อนเพื่อผิวสวย''
    ●แหล่งน้ำพุร้อนขึ้นชื่อ
    ชิโอบาระออนเซนเคียว คาวามาตะออนเซน
    ■แก้ภาวะโลหิตจาง
    <ชนิดของน้ำพุร้อนที่แนะนำ : บ่อน้ำพุร้อนที่มีธาตุเหล็ก>
    น้ำพุร้อนที่มีธาตุเหล็กอยู่มาก ช่วยปรับปรุงภาวะโลหิตจางให้ดีขึ้นได้โดยการดื่มน้ำแร่ชนิดนี้
    ●แหล่งน้ำพุร้อนขึ้นชื่อ
    เทรายามะโคเซน
  • ■ช่วยปรับปรุงด้านความดันโลหิตสูงให้ดีขึ้น
    <ชนิดของน้ำพุร้อนที่แนะนำ : บ่อน้ำพุร้อนซัลเฟต>
    เนื่องจากมีสรรพคุณในการลดความดันโลหิต จึงแนะนำสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ยังใช้ได้ผลกับแผลที่ถูกบาดและแผลจากไฟไหม้อีกด้วย ได้รับการขนานนามว่าเป็น "บ่อน้ำพุร้อนรักษาแผล''
    ●แหล่งน้ำพุร้อนขึ้นชื่อ
    อิตามุโระออนเซน ชิโอบาระออนเซนเคียว

ขอแนะนำประสบการณ์ที่สามารถเพลิดเพลินร่วมกับการแช่ออนเซนได้ที่นี่
การสัมผัสประสบการณ์ท่ามกลางธรรมชาติและวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ให้ความรู้สึกที่ต่างไปจากวันปรกติจะช่วยให้จิตใจและร่างกายสดชื่น

ดูเพิ่มเติม

ดูเพิ่มเติม

สถานที่แนะนำอื่นๆ

ดูเพิ่มเติม

ออนเซนของญี่ปุ่นโดยพื้นฐานแล้วเป็นห้องอาบน้ำรวมที่จะต้องอาบน้ำร่วมกับผู้อื่น แต่ก็มีออนเซนในรูปแบบที่สามารถเพลิดเพลินกับการแช่แบบส่วนตัวได้เช่นกัน นอกจากนี้ แม้ว่าออนเซนจะมีผลช่วยส่งเสริมการมีสุขภาพดี แต่ถ้าแช่น้ำผิดวิธีสภาพร่างกายก็อาจจะย่ำแย่ได้เช่นกัน ในที่นี้ จึงจะขออธิบายถึงรูปแบบของออนเซนและวิธีการเข้าไปแช่น้ำพุร้อนโดยทั่วไป

  • ■โรงอาบน้ำขนาดใหญ่
    เป็นรูปแบบบ่อออนเซนทั่วไปที่อาบน้ำร่วมกับผู้อื่น มักจะมีบ่อแช่น้ำหลายบ่อติดตั้งอยู่ในพื้นที่อันกว้างขวาง จึงสามารถเพลิดเพลินกับน้ำพุร้อนที่มีคุณสมบัติของน้ำและอุณหภูมิที่แตกต่างกันได้ ส่วนมากมักจะมีบ่อแช่น้ำในร่มที่เรียกว่า "อุจิยุ'' และบ่อแช่น้ำกลางแจ้งที่เรียกว่า "โระเตมบุโระ''
  • ■บ่อแช่น้ำแบบเปิดโล่ง
    ห้องอาบน้ำที่มีบ่อแช่น้ำกลางแจ้ง สามารถเพลิดเพลินกับน้ำพุร้อนพร้อมกับการชื่นชมทิวทัศน์ตามฤดูกาลและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวได้
  • ■ห้องอาบน้ำแบบคาชิคิริ (ห้องอาบน้ำส่วนตัว)
    ห้องอาบน้ำประเภทนี้สามารถจองไว้เพื่อใช้ส่วนตัวได้ แตกต่างจากโรงอาบน้ำขนาดใหญ่ เนื่องจากสามารถเพลิดเพลินกับบ่อน้ำพุร้อนในพื้นที่ส่วนตัวได้ จึงแนะนำสำหรับครอบครัว คู่รัก ผู้ที่แช่น้ำพุร้อนเป็นครั้งแรก และผู้ที่ลังเลที่จะอาบน้ำร่วมกับผู้อื่นในโรงอาบน้ำขนาดใหญ่ ผู้ที่มีรอยสักก็สามารถใช้ได้ ในบางกรณีการจองรายชั่วโมง หรือ อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
  • ■บ่อออนเซนในห้องพัก
    เป็นออนเซนประเภทที่มีอ่างอาบน้ำของตัวเองโดยเฉพาะภายในห้องพักในโรงแรมหรือเรียวกัง สามารถเพลิดเพลินกับออนเซนได้อย่างสะดวกสบายภายในห้องพักของตัวเอง และลงแช่น้ำได้ทุกเมื่อที่ต้องการโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเวลา แม้ว่าราคาห้องพักจะสูงกว่าห้องอื่นเล็กน้อย แต่ก็แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและผู้ที่ต้องการแช่น้ำพุร้อนอย่างอิสระ
1. ถอดเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า่
・บ่อน้ำพุร้อนในญี่ปุ่น ไม่สามารถเข้าโดยสวมชุดว่ายน้ำหรือชุดชั้นในได้ ต้องถอดเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
・ในญี่ปุ่น แม้ว่าจะเป็นรอยสักตามแฟชั่น บางครั้งก็อาจถูกห้ามไม่ให้เข้าแช่ออนเซน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ก็ยังมีออนเซนนบางแห่งที่อนุโลมให้เข้าไปได้โดยการใช้เทปหรือสิ่งอื่นปิดรอยสักไว้โปรดตรวจสอบจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสถานที่ที่จะไป
2. ชำระล้างร่างกายก่อนแช่บ่อน้ำพุร้อนก่อนเข้าบ่อน้ำพุร้อน
・ควรชำระร่างกายให้สะอาดตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสบู่และแชมพู เครื่องสำอางก็ควรล้างออกด้วย การปฏิบัติเช่นนี้เป็นการช่วยรักษาความสะอาดและสุขอนามัยของน้ำพุร้อนในออนเซน
3. ตักน้ำจากบ่อราดตัว
・การราดน้ำพุร้อนลงบนร่างกายจะช่วยให้ร่างกายคุ้นเคยกับอุณหภูมิของออนเซน
・ราดน้ำพุร้อนตามลำดับโดยเริ่มจากมือและเท้าซึ่งอยู่ห่างจากหน้าอกมากที่สุด
เพื่อป้องกันไม่ให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นกระทันหันหลังลงแช่น้ำ วิธีนี้จะทำให้สามารถแช่น้ำพุร้อนได้อย่างปลอดภัย
4. ลงบ่อแช่น้ำ
・ในตอนแรก ควรลงแช่ครึ่งตัวเพื่อให้ร่างกายคุ้นเคย การค่อยๆ หย่อนตัวลงไปช้าๆ ร่างกายจะไม่ต้องรับภาระการปรับตัวอย่างกะทันหันจากอุณหภูมิและแรงดันน้ำ
・ระยะเวลาที่เหมาะสำหรับการแช่น้ำพุร้อนคือแช่จนพอมีเหงื่อออกตามหน้าผากและจมูกเท่านั้น การแช่น้ำร้อนเป็นเวลานานอาจเป็นเหตุให้ไม่สบายได้ (เวลาโดยประมาณ : 42°C = ประมาณ 5 นาที 41°C = 10 นาที 40°C = 15 นาที 39°C = 20 นาที)
・เพื่อรักษาความสะอาดของบ่อน้ำพุร้อน โปรดอย่าใส่ผ้าเช็ดตัวลงไปแช่ในบ่อน้ำพุร้อน
・บ่อน้ำพุร้อนเป็นสถานที่สำหรับผ่อนคลาย ดังนั้นโปรดแช่น้ำอย่างเงียบสงบ อย่าคุยเสียงดังหรือว่ายน้ำในบ่อ
5. ขึ้นจากบ่อน้ำพุร้อน
・เมื่อออกจากบ่อเช่น้ำแล้ว ควรใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวให้แห้ง ไม่ควรอาบฝักบัวเพื่อหลีกเลี่ยงการชะล้างสารประกอบที่มีสรรพคุณทางยาของน้ำพุร้อน
* โปรดอาบน้ำฝักบัว ถ้าหากมีผิวแพ้ง่าย หรือ ในกรณีที่ลงไปแช่น้ำพุร้อนที่เสี่ยงต่อการระคายเคืองผิวได้สูง เช่น น้ำพุที่เป็นกรด เป็นต้น
6. หลังอาบน้ำแล้ว
・ปริมาณน้ำในร่างกายจะลดลงเนื่องจากการสูญเสียเหงื่อออกไปในบ่อน้ำพุร้อน ดังนั้น เมื่อขึ้นจากบ่อน้ำพุร้อนแล้ว โปรดดื่มน้ำเพื่อทดแทนน้ำที่เสียไป
・เมื่อแช่น้ำพุร้อน ร่างกายจะเผาผลาญพลังงาน เนื่องด้วยความดันโลหิตที่จะเปลี่ยนแปลง จึงควรพักอย่างน้อย 30 นาทีจนกว่าสภาพร่างกายจะกลับสู่สภาวะปกติ
  • ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
  • สถานที่ชำระล้างร่างกาย
  • สถานที่พักผ่อน
ค้นหาที่พัก
คุณจะถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์ภายนอก

  1. หน้าแรก
  2. บทความสกู๊ปพิเศษ
  3. การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วยออนเซน (บ่อน้ำพุร้อน) ของญี่ปุ่น