ค้นพบโทชิงิ วัฒนธรรม
ญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่เป็นเกาะนี้มีวัฒนธรรมหลากหลายที่หยั่งรากลึกในภูมิภาคนั้นๆ และแม้แต่ในจังหวัดโทจิงิก็ได้มีสร้างวัฒนธรรมดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ในสถานที่ต่างๆ เช่น งานฝีมือดั้งเดิมที่ใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นและเทศกาลที่สืบทอดต่อๆ กันมา และในจำนวนนั้นออนเซ็นก็ถือเป็นวัฒนธรรมที่ได้มาจากธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของโทจิงิ และมีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับประวัติอันยาวนานของแต่ละพื้นที่ และในบทความนี้เราจะขอแนะนำวัฒนธรรมออนเซ็นในโทจิงิที่มีต้นน้ำมากกว่า 600 แห่ง
ตระเวนเที่ยวออนเซ็นในโทจิงิที่สัมผัสได้ถึงประวัติอันยาวนานและธรรมชาติ
ออนเซ็นสำหรับคนญี่ปุ่นคืออะไร?
ประเทศญี่ปุ่นมีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ราว 10% จากทั่วโลก และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยออนเซ็นภูเขาไฟ และเมื่อมองย้อนกลับไปในประวัติอันยาวนาน ว่ากันว่าออนเซ็น (บ่อน้ำพุร้อน) ก็ได้ปรากฏอยู่ในวรรณกรรมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 แล้ว ออนเซ็นมีสารเคมีที่ได้มาจากภูเขาไฟ และออนเซ็นแต่ละประเภทก็ออกฤทธิ์ต่อความเจ็บป่วยทางร่างกาย เช่น ความเหนื่อยล้า บาดแผล และกลาก นอกจากนี้ยังกล่าวกันว่าการแช่ออนเซ็นเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นจะช่วยทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น และส่งผลดีต่อสุขภาพ เช่น มีการฟื้นฟูของร่างกายเพิ่มขึ้น
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ออนเซ็นแต่เดิมจึงเป็นสถานที่สำหรับการพักฟื้น และถูกเรียกว่า “การรักษาโรคด้วยการแช่ออนเซ็น” เพื่อรักษาบาดแผลและอาการเจ็บป่วยขณะเข้าพักในที่พักเป็นระยะเวลานาน และทุกวันนี้ผู้คนจำนวนมากก็มาเยือนออนเซ็นพร้อมกับครอบครัวและเพื่อนฝูงในช่วงสุดสัปดาห์ ฯลฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อความสดชื่น
จังหวัดโทจิงิยังมีแหล่งออนเซ็นที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมาตั้งแต่อดีต เราจึงขอชวนคุณมาลองเปิดเผยเสน่ห์ของออนเซ็นในจังหวัดโทจิงิในหัวข้อหลักอย่างคินุกาวะออนเซ็น (Kinugawa Onsen) และนาสุออนเซ็นเคียว (Nasu Onsenkyo) ที่ในปัจจุบันก็ยังคงเป็นที่รู้จักกันในฐานะออนเซ็นที่มีชื่อเสียงเช่นกัน
“นาสุออนเซ็นเคียว” แหล่งออนเซ็นบนรีสอร์ตที่ราบสูงที่มีประวัติยาวนานเกือบ 1,400 ปี
ที่ราบสูงนาสุซึ่งทอดตัวไปทางตอนเหนือของจังหวัดโทจิงินี้ เป็นพื้นที่มีเสน่ห์ของธรรมชาติอันกว้างใหญ่ที่กินพื้นที่จากภูเขานาสุบนระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,900 เมตรยาวไปจนถึงเชิงเขา และที่เชิงเขาก็จะมีสถานที่พักผ่อน เช่น ฟาร์มปศุสัตว์และพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ฯลฯ นาสุออนเซ็นเคียวที่มีออนเซ็นมากมาย รวมทั้งมีโรงแรม และเรียวกังตั้งเรียงราย และเป็นที่รู้จักกันในฐานะพื้นที่รีสอร์ตที่คุณสามารถใช้เวลายามว่างได้สบายๆ
“ชิคะ โนะ ยุ (Shika no Yu)” ที่เก่าแก่ที่สุดในนาสุออนเซ็นเคียวเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 630 ปี และมีประวัติยาวนานเกือบ 1,400 ปี กล่าวกันว่า “ชิคะ โนะ ยุ (ออนเซ็นแห่งกวาง)” ตั้งชื่อตามเรื่องที่เล่าสืบต่อกันมาว่า “ตอนที่ชายคนหนึ่งกำลังล่าสัตว์อยู่บนภูเขา ได้เข้าไปในบริเวณที่ลึกเข้าไปในหุบเขาโดยไล่ตามกวางที่ยิงพลาดและหนีไป จากนั้นกวางก็เลยมารักษาบาดแผลที่ออนเซ็น
มีบันทึกอยู่ว่าในสมัยเอโดะ ซามูไรผู้มีอิทธิพลที่มีอาณาเขตอยู่ในเอโดะ (ปัจจุบันคือพื้นที่ในโตเกียว) ได้ไปที่นาสุออนเซ็นเพื่อแช่รักษาโรคเช่นกัน และมีเรื่องเล่าว่าในบริเวณรอบๆ มี “ศาลเจ้านาสุยุเซ็น (Nasu Yuzen Shrine)” ที่สักการะออนเซ็น และได้ถือกันว่าออนเซ็นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว
โรงแรมมัตสึคาวายะ นาสุโคเก็น (Matsukawaya Nasukogen Hotel) มีประวัติยาวนานโดยมีการก่อสร้างมาแล้วราว 160 ปีในนาสุออนเซ็นที่มีประวัติอันยาวนานดังกล่าว โดยโรงแรมได้สร้างขึ้นที่หน้าประตูศาลเจ้านาสุยุเซ็น และได้เริ่มกลายเป็นเป็นที่พักสำหรับผู้ที่มาสักการะ
ที่ออนเซ็นของที่นี่ คุณสามารถเพลิดเพลินกับออนเซ็นได้ 2 ประเภทคือ “ชิคะ โนะ ยุ” และต้นน้ำอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งการจะได้ “คุณภาพของน้ำออนเซ็นที่แท้จริง” จะมีการเติมออนเซ็นธรรมชาติลงในบ่อแช่น้ำร้อนโดยจะไม่มีการเติมน้ำหรือให้ความร้อนเพิ่ม รวมทั้งไม่นำน้ำออนเซ็นเก่ามาหมุนเวียนใช้ ถ้าน้ำอุ่น ก็จะทำการเพิ่มปริมาณของน้ำออนเซ็น และถ้าน้ำร้อน อุณหภูมิก็จะถูกปรับโดยการ “ยุโมมิ” ซึ่งจะเป็นการกวนน้ำร้อนเพื่อทำให้อุณหภูมิของน้ำลดลง
“ชิคะ โนะ ยุ” เป็นน้ำพุร้อนที่มีความเป็นกรดสูงและมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้สูงด้วย และเล่าต่อกันมาตั้งแต่อดีตแล้วว่าจะออกฤทธิ์กับบาดแผลและโรคผิวหนัง ฯลฯ โดยน้ำพุร้อนที่เติมจะไม่มีสี แต่เมื่อสัมผัสกับอากาศก็จะค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นน้ำพุร้อนสีขาวขุ่น
วิวจากโรงแรมที่ตั้งอยู่บนหน้าผาแห่งนี้ช่างสวยงาม และมักเรียกกันว่า ดีเยี่ยมที่สุดในนาสุออนเซ็นเคียว นอกจากนี้จากหน้าต่างของบ่อแช่น้ำร้อนของผู้หญิง คุณจะสามารถชื่นชมดอกอาซาเลียและความเขียวขจีในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงได้ รวมไปถึงความผันแปรของธรรมชาติต่างๆ
สถานที่อีกแห่งจากนาสุออนเซ็นเคียวที่เราจะขอแนะนำก็คือ ซังซุยคาคุ (Sansuikaku) ซึ่งตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อุดมไปด้วยธรรมชาติ และอยู่ใกล้กับบ้านพักตากอากาศของราชวงศ์ รวมทั้งถือเป็นเรียวกังหรูหราขนาดเล็กโดยมีห้องพักทั้งหมด 14 ห้อง เนื่องจากตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ จึงมีข้อจำกัดที่เข้มงวดในการก่อสร้างขยายและสร้างใหม่ แต่ในขณะที่รักษาความสวยของอาคารไม้ที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี 1930 ที่นี่ก็ได้มีการปรับแต่งใหม่อยู่หลายครั้งเพื่อให้เกิดความสะดวกสบายแก่แขกที่เข้าพักจนมีลักษณะอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
ที่นี่มีการดึงออนเซ็นมาจากโอมารุออนเซ็นซึ่งอยู่ในสถานที่ที่สูงมากเหนือระดับน้ำทะเลและลึกที่สุดแม้ในนาสุออนเซ็นเคียว โดยออนเซ็นประกอบด้วยกรดเมตาซิลิซิกจำนวนมากซึ่งมีสารประกอบที่ให้ความชุ่มชื้นจึงดีสำหรับผิวสวย นอกจากนี้ยังให้สัมผัสที่นุ่มนวลแก่ผิว และการลงแช่น้ำพุร้อนเป็นเวลานานก็จะทำให้ร่างกายอบอุ่นจากภายใน
ที่นี่ไม่เหมือนกับ “โรงแรมมัตสึคาวายะ นาสุโคเก็น” ที่กล่าวไว้ตอนต้นในเรื่องของทิวทัศน์ที่มองออกไปได้กว้างไกล โดยที่ซังซุยคาคุจะมีวิวอันน่าตื่นตาตื่นใจของต้นไม้มากมายปรากฏอยู่ตรงหน้าเมื่อคุณเปิดหน้าต่าง โดยตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิจนถึงฤดูร้อนจะเต็มไปด้วยใบไม้สีเขียวและมีเสียงนกขนาดเล็กร้องดังขึ้นเล็กน้อย และในฤดูใบไม้ร่วงก็จะถูกแต่งแต้มด้วยใบไม้เหล่านั้นที่กลายเป็นสีแดง
ที่นี่ได้มีการดำเนินการอย่างแข็งขันด้านระบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นการปกป้องออนเซ็นที่เป็นความอุดมสมบูรณ์จากธรรมชาตินี้ โดยมีการใช้หม้อไอน้ำที่ใช้เชื้อเพลิงอัดเม็ดที่ทำจากไม้แบบบางแทนการใช้น้ำมันก๊าด ส่วนเชื้อเพลิงอัดเม็ดจะถูกแปรรูปในท้องถิ่นจากไม้แบบบางของตำบลนาสุ ที่เป็นเมืองแห่งป่าไม้ด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระหว่างการขนส่ง
“คินุกาวะออนเซ็น” แหล่งออนเซ็นขนาดใหญ่ที่สามารถเดินทางไปได้โดยรถไฟจากโตเกียว
จากตรงนี้เราจะขอแนะนำคินุกาวะออนเซ็น ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดโทจิงิ โดยมีสถานีรถไฟ “สถานีคินุกาวะออนเซ็น” ตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณที่มีที่พักพร้อมออนเซ็นเรียงรายอยู่ และมีจุดเด่นที่เดินทางได้ง่ายเพราะสามารถไปถึงได้ภายในเวลาเพียงประมาณ 2 ชั่วโมงจากโตเกียว รวมทั้งยังตั้งอยู่ในพื้นที่นิกโกซึ่งมีสถานที่ชื่อดังที่มีประวัติอันยาวนานและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เช่น ศาลเจ้านิกโกโทโชกูที่เป็นมรดกโลก น้ำตกเคกงที่ไหลอย่างสดชื่นจากความสูง 97 เมตร และสะพานแขวนที่มีความยาวถึง 140 เมตรที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของหุบเขาได้
คินุกาวะออนเซ็นถูกค้นพบในสมัยเอโดะ (ปี 1603-1868) และเล่ากันว่าในเวลานั้นมีเหล่าพระและซามูไรที่ไปเยือนที่ศาลเจ้าและวัดในนิกโกได้แวะเวียนไปออนเซ็นดังกล่าว ในปัจจุบันมีเรียวกังและโรงแรมต่างๆ เรียงรายอยู่เลียบแม่น้ำคินุกาวะ และคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวมากกว่า 2 ล้านคนต่อปี และน้ำพุร้อนอัลคาไลน์ยังออกฤทธิ์กับแผลไฟไหม้ อาการปวดเส้นประสาท อาการปวดกล้ามเนื้อ และช่วยฟื้นฟูจากความเหนื่อยล้า ฯลฯ และมีจุดเด่นคือมีความนุ่มนวลต่อผิวและระคายเคืองน้อย
โรงแรมคินุกาวะ พาร์ก (Kinugawa Park Hotels) ที่ตั้งอยู่ห่างจากสถานีคินุกาวะออนเซ็นประมาณ 5 นาทีโดยการเดิน และมองลงมาเห็นหุบเขาได้แห่งนี้ เป็นที่พักที่แขกผู้เข้าพักทุกเพศทุกวัยสามารถเพลิดเพลินได้ และเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยอาคาร 4 หลังที่มีเสน่ห์แตกต่างกัน ตั้งแต่อาคารที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศแบบญี่ปุ่นในห้องสไตล์ญี่ปุ่น ไปจนถึงบ้านคอตเทจในสไตล์ตะวันตก
บ่อแช่น้ำร้อนของที่นี่มีทั้งหมด 7 แห่งไม่ว่าจะเป็นออนเซ็นกลางแจ้งที่มีเสน่ห์และรายล้อมไปด้วยหินขรุขระ ไปจนถึงบ่อแช่น้ำร้อนจากต้นสนฮิโนกิที่ฟุ้งไปด้วยกลิ่นหอมจากไม้และมองลงไปเห็นแม่น้ำคินุกาวะได้ รวมทั้งอ่างแช่น้ำที่มีรูปร่างคล้ายเรือและไม่เหมือนใคร
จุดเด่นของอาหารเย็นก็คือการใช้วัตถุดิบมากมายที่ผลิตได้ในจังหวัดโทจิงิ โดยคุณสามารถเพลิดเพลินกับเนื้อวัวโทจิงิวากิว ยุบะ (ฟองเต้าหู้) ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของนิกโก และปลาแม่น้ำโดยขึ้นอยู่กับฤดูกาล ฯลฯ รวมไปถึงความยืดหยุ่นที่ช่วยรองรับเรื่องอาหารมังสวิรัติและอาหารฮาลาล (สำหรับกลุ่มเท่านั้น และต้องตรวจสอบล่วงหน้า) ก็ดีเยี่ยมอย่างมาก
โรงแรมคินุกาวะ แกรนด์ ยุเมะโนะโทคิ (Kinugawa Grand Hotel Yumenotoki) ที่เราจะขอแนะนำอีกแห่งหนึ่งจากคินุกาวะออนเซ็นนี้ เป็นโรงแรมที่ล้อมรอบด้วยสวนญี่ปุ่นอันกว้างขวาง และคุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามได้ทั้งสี่ฤดูกาล และจุดเด่นของที่นี่ก็คือห้องพักทุกห้องจะมีขนาดกว้างมากกว่า 50 ตร.ม. เพื่อให้คุณพักผ่อนได้แบบสบายๆ
บ่อแช่น้ำร้อนของโรงแรมนี้มีหลายขนาดทั้งเล็กและใหญ่ เช่น อ่างแช่น้ำรวม และออนเซ็นกลางแจ้งแบบเช่าส่วนตัว
คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์ลงแช่ออนเซ็นที่ให้ความบันเทิงสูง ไม่ว่าจะเป็นออนเซ็นกลางแจ้งที่สนุกได้กับความรู้สึกล่องลอยแสนสบายใจ และจะลึกขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ความลึกที่ 20 ซม. ไปจนถึง 110 ซม. และ “บ่อซิลค์บาธ (Silk Bath)” ที่มีฟองขนาดเล็กจนมองเห็นเป็นสีขาวขุ่นคล้ายน้ำนม และมีฟองจำนวนนับไม่ถ้วนนี้ห่อหุ้มร่างกายของคุณอย่างอ่อนโยน และหลังจากแช่ออนเซ็นจนสดชื่นแล้ว คุณจะต้องมีความสุขไปกับช่วงเวลาทานอาหารเย็นไปพร้อมกับชื่นชมสวนญี่ปุ่นที่ทิวทัศน์จะเปลี่ยนโฉมไปตามฤดูกาลและช่วงเวลาอย่างแน่นอน
นาสุออนเซ็นเคียวที่คุณสามารถสงบใจและผ่อนคลายได้ และคินุกาวะออนเซ็นอันมีชีวิตชีวาที่สนุกสนานได้แม้จะพาครอบครัวไปด้วยนี้ ต่างเป็นที่พักพร้อมออนเซ็นที่มีหลากหลายสไตล์ และไม่เพียงแต่จะช่วยเยียวยาความเหนื่อยล้าใน 1 วันของคุณหลังจบจากการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่คุณจะสัมผัสได้ลึกซึ้งถึงวัฒนธรรมออนเซ็นที่หยั่งรากลึกในญี่ปุ่นในระหว่างการเข้าพักของคุณ เราจึงอยากชวนให้คุณได้มาสัมผัสถึงจิตวิญญาณแห่งโทจิงิที่เคารพในออนเซ็นมายาวนานตั้งแต่อดีตนี้กันให้ได้